ความเป็นมา

  • Post category:Lifestyle

ด้วยเหตุผลในด้านการปฏิบัติงานให้เกิดความรัดกุม และประสิทธิภาพ คณะกรรมการของโครงการบ้านเรียนรุ่งอรุณ ซึ่งเกิดจากกลุ่มนักการศึกษาที่สนใจการศึกษาทางเลือก อาจารย์มหาวิทยาลัย ผู้ปกครอง จึงริเริ่มจัดตั้งสมาคม เพื่อทำหน้าที่จัดการศึกษา และกำกับดูแล โครงการบ้านเรียนรุ่งอรุณที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่พ.ศ. ๒๕๕๖   ซึ่งต่อมาได้เห็นชอบร่วมกันที่จะจัดตั้งเป็นศูนย์การเรียนอรุณ

ศูนย์การเรียนแห่งนี้ เกิดจากกลุ่มบุคคลที่มีทัศนะต่อการศึกษาตรงกัน คือ เล็งเห็นว่าการศึกษาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาความเป็นมนุษย์ และการศึกษาที่แท้จริง คือ สิ่งที่ผู้เรียนเห็นประโยชน์ เป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยไม่มีที่สิ้นสุด ด้วยเหตุนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดในการจัดการเรียนรู้ ก็คือการวางรากฐานของการเรียนรู้ ผ่านการค้นคว้า เข้าถึงข้อมูล คิด วิเคราะห์ จนเกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ เมื่อเป็นไปได้เช่นนี้ ผู้เรียนก็จะมีทักษะสามารถเริ่มต้นเรียนรู้ในเรื่องต่าง ๆ ตามความสนใจได้อย่างไม่สิ้นสุด และมีประสิทธิภาพ

 และตลอดระยะเวลา ๗ ปี ที่จัดการศึกษาแบบทางเลือกภายใต้โครงการบ้านเรียนรุ่งอรุณได้  มุ่งเน้นการบูรณาการ และพัฒนาไปสู่การทำโครงงานกิจกรรม มีผู้เรียนสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลาย เข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัย ไปแล้ว รวม ๕  รุ่น ดังนี้ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คณะมนุษยศาสตร์ สาขาจิตวิทยา,  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน,   มหาวิทยาลัยมหิดล คณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ,  มหาวิทยาลัยมหิดล คณะการแพทย์แผนไทย,  มหาวิทยาลัยมหิดล คณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์  และจบมหาวิทยาลัยรามคำแหง คณะศึกษาศาสตร์ เอกวิทยาศาสตร์การกีฬา เกียรตินิยมอันดับ ๑ ด้วยการเรียนในระบบพรีดีกรีตั้งแต่ระดับชั้นมัธยม ๔     ผู้เรียนสามารถเรียนในระดับมหาวิทยาลัยได้อย่างดี เนื่องจากมีพื้นฐานของการทำโครงงานกิจกรรม ซึ่งใกล้เคียงกับการทำวิจัยในการศึกษาระดับสูง และผู้เรียนมีพื้นฐานความเข้าใจในเรื่องการกำหนดวัตถุประสงค์ สรุปบทเรียน การวิเคราะห์ ประเมินมาก่อน  สมาคมฯ จึงเกิดแนวคิดที่จะรวบรวมโครงงานการเรียนรู้ที่ผู้เรียนกำหนดขึ้น ประมวลผลสำเร็จ ปัญหา ข้อจำกัดต่าง ๆ ในรูปแบบของการวิจัย ไม่เพียงเพื่อใช้เป็นแนวทางให้กับผู้สนใจที่จะเลือกเรียนในแบบทางเลือกดังกล่าวในอนาคต  หากยังเป็นการตรวจสอบ ประเมินผล และประมวลข้อดีข้อเสียของการจัดการศึกษาในรูปแบบนี้ ซึ่งสมาคมใช้คำว่า Project – Based Learning โดยติดตามจากกลุ่มเป้าหมายจริง ที่ผู้ทำวิจัยเข้าใจพื้นฐานของแต่ละรายอย่างถ่องแท้ เป็นการลดความคลาดเคลื่อนจากความไม่เข้าใจในการศึกษาวิจัย  ทั้งนี้ผลการศึกษาที่ได้จะเป็นฐานข้อมูลของการพัฒนาระบบการศึกษาทางเลือกในประเทศไทย